เลือกใช้ให้ตรงใจ 3 เตาเผาเซามิก กับเชื้อเพลิงที่แตกต่าง
“เตาเผาเซามิก” เครื่องมือชิ้นสำคัญในการผลิตชิ้นงานเซรามิกที่สำคัญที่สุด เพราะหากขาดเตาเผาไปแล้ว แม้จะปั้นชิ้นงานสวยแค่ไหน คุณก็ไม่มีวันได้เซรามิกเนื้อดีมาครอบครอง
ซึ่งเตาเผาเซรามิกที่มีให้ใช้ในปัจจุบันได้แก่ เตาเผาแบบใช้ฟืน, ถ่านหิน, น้ำมัน, แก๊ส และไฟฟ้า แต่ที่นิยมใช้กันมากส่วนใหญ่คือ เตาเผา 3 ชนิดต่อไปนี้
- เตาชนิดที่ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง (Wood Firing Kiln) เป็นเตาเผาที่นักปั้นต้องรู้จักการออกแบบให้การลุกไหม้ของเชื้อเพลิงนั้นสามารถเผาได้อุณหภูมิสูงและยังจะต้องเน้นการถ่ายเทของขี้เถ้าได้สะดวก ซึ่งการใช้ฟืนในการเผานั้น มีข้อดีคือทำให้ได้ชิ้นงานที่มีสีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากเมื่อเผาไปสักพักขี้เถ้าจะก่อตัวขึ้นมาทำให้เกิดสีอย่างหลากหลาย
- เตาชนิดให้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง (Gas Firing kiln) เป็นเตาเผาที่ให้อุณหภูมิสูงสามารถเผาในบรรยากาศทั้งแบบไม่มีเขม่าและมีเขม่า ข้อดีของเตาเผาแบบนี้คือ ใช้ได้สะดวก ควบคุมง่าย สามารถผลิตชิ้นงานขนาดต่างๆ ได้ตามความต้องการ นั่นเพราะมีหัวพ่นไฟทำหน้าที่กระจายความร้อนไปยังจุดต่างๆ หากมีหัวพ่นไฟจำนวนมากก็ยิ่งเผาได้เร็วและควบคุมได้ดีขึ้น แต่ข้อเสียคือจะต้องเว้นพื้นที่เพื่อการถ่ายเทอากาศในกรณีที่แก๊สรั่วออกมาจะได้กระจายจางไป ซึ่งแก๊สที่ใช้ในเตาเผาเซรามิกในปัจจุบันได้แก่ แก๊สปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG นั่นเอง
- เตาเผาชนิดไฟฟ้า (Electric Firing kiln) จัดว่าเป็นเตาเผาที่มีความปลอดภัยที่สุด สามารถเผาไฟสูงได้ถึง1,200-1,300 องศาเซลเซียส แถมยังเผาแล้วเตาสะอาด สามารถเร่งความเร็วได้ตามต้องการ เพราะเป็นเตาที่เผาแบบ oxidizing ที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งการใช้งานและมีรูปทรงที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเตากลม เตาสี่เหลี่ยม เตาที่เปิดด้านบน (Top Loading) เตาที่เปิดด้านหน้า อย่างไรก็ตาม เตาชนิดนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ว่าไม่เหมาะสมที่จะเผารีดักชันแบบเตาแก๊ส เพราะบรรยากาศแบบรีดักชันทำให้ขดลวดในเตาเสื่อมสภาพ ส่วนที่ให้ความร้อนในเตาเผามักใช้ขดลวดปลายตรงต่อกับวงจรไฟฟ้า ซึ่งขดลวดนี้จะฝังพอดีอยู่กับผนังเตาโดยเกิดความร้อนและแดงขึ้นเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน