เพราะ ‘รัก’ เพราะ ‘ชอบ’ เพราะมีใจ จึงได้มี A Studios

เอ สตูดิโอ (A Studios) เกิดขึ้นมาจากความชื่นชอบในงานศิลปะและงานฝีมือ (Art & Craft) ของครูเอ - จตุพร ศรลำภู ที่ต้องการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านงานศิลปะและงานฝีมือ DIY แขนงต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเรียนวาด เรียนปั้น เรียนการถ่ายภาพ หรือแม้กระทั่งเรียนงานไม้ ครูเอก็สามารถสอนองค์ความรู้ให้กับผู้ที่สนใจได้ 

“ช่วงที่ตัดสินใจเลือกสาขาวิขาเรียนปริญญาตรี เลือกเรียนออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งจบมาก็คืออาชีพมัณฑนากร แต่ด้วยความชื่นชอบส่วนตัวที่หลงใหลในงานปั้นเซรามิก และได้มีโอกาสได้พบกับรุ่นพี่ คือ พี่โก๊ะ -  อภิชัยหัตถกรรม จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้ก้าวเข้ามาในวงการเซรามิกครับ

“ด้วยการเเนะแนวความรู้ต่างๆ ของพี่โก๊ะ ตลอดจนศึกษาหาความรู้จากอินเตอร์เนต, งานวิจัย, หนังสือต่างๆ ตลอดจนกระทั่งลองผิดลองถูก ลงมือทำอย่างจริงจัง และทำแม้กระทั่งสร้างเตาเผาขึ้นมาใช้เอง เพราะเชื่อว่าอะไรที่เราลงมือสร้างขึ้นมาเองจะได้เรียนรู้ถึงความผิดพลาดและความสำเร็จที่แท้จริงได้ หากรู้แค่เพียงแต่ในตำรา นั่นอาจจะยังไม่ดีพอที่จะนำมาถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นได้ครับ” 

งานปั้นที่ เอ สตูดิโอ จะออกแนวเครื่องใช้ภายในครัว เช่น แก้ว ชาม กาน้ำชา แก้วกาแฟ แก้วชา ฯลฯ ในรูปแบบรูปทรงที่เอนเอียงไปทางแบบญี่ปุ่นในหลายๆ ลักษณะงาน โดยมีเทคนิคพิเศษที่ค่อยๆ ศึกษาและเรียนรู้มาเรื่องๆ มากมาย เช่นเรื่องน้ำเคลือบ

“โดยมากแล้ว น้ำเคลือบจะเป็นเคลือบจากขี้เถ้าไม้ต่างๆ อาจมีการใช้สารเคมีบางตัวมาใช้บ้างในบางชิ้นงาน และการมาเรียนรู้งานปั้นกับเรา นอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องดินแต่ละชนิด (ทั้งที่ซื้อจากโรงงานและใช้ดินในพื้นที่) ว่าสามารถนำมาใช้ในงานปั้นแบบไหนได้บ้าง กับเรียนทำน้ำเคลือบแล้ว ยังจะได้เรียนรู้วิธีคิดในการออกแบบชิ้นงานอีกด้วย 

“สำหรับ Pottery Clay ก็เป็นอีกแหล่งความรู้และแหล่งซื้อวัตถุดิบกับเครื่องมือบางชนิดที่จำเป็นในงานเซรามิกของผมนะครับ เพราะเคยหาซื้อสินค้าประเภทสารเคมีและอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดบางอย่างแล้วหาซื้อค่อนข้างยาก แต่ที่นี่จะมีค่อนข้างครบ ซึ่งสินค้าที่หลากหลายและการบริการที่ดีจึงเป็นเหตุผลแรกๆ ที่จะนึกถึงบริษัทนี้ก่อนอันดับแรกในการหาสิ่งที่ต้องการ” 

แต่กว่าจะเกิดขึ้นมาเป็น เอ สตูดิโอ ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกับการปั้นชิ้นงานเซรามิกชิ้นพิเศษขึ้นมาหนึ่งชิ้นเลยทีเดียว

“การสร้าง เอ สตูดิโอขึ้นมา มันก็คงเหมือนกับการปั้นชิ้นงานจากดินในมือของเราสักก้อน กว่าจะเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ก็นับว่าต้องลุ้น ต้องลอง ต้องคิด และที่สำคัญต้องลงมือทำ ถึงแม้ผลของมันจะออกมาไม่ได้อย่างที่คิดไว้ แต่มันก็ให้ประสบการณ์กับเรา เพื่อที่จะเอาไปต่อยอดปรับปรุงขึ้นมาให้ประสบความสำเร็จในครั้งต่อๆ ไปได้”

สุดท้ายนี้ ครูเอยังฝากแง่คิดดีๆ มาถึงคนที่มีใจรักในการปั้นด้วยนะคะ

“สำหรับคนที่มีใจรักในการปั้น แต่ยังไม่กล้าที่จะก้าวข้ามความกลัวในใจ ให้ลองหวนคิดถึงสิ่งที่ผ่านเลยมาว่าเราเสียโอกาสในการทำสิ่งที่ชอบแต่ไม่มีเวลา ไม่กล้า หรือจะอะไรก็ตามแต่ มากี่ครั้งแล้ว บางครั้ง เราควรให้โอกาสตนเองในการสร้างสิ่งที่รักที่ชอบดูสักครั้ง มันอาจจะเปลี่ยนเส้นทางเดินในการใช้ชีวิตไปตลอดกาลก็เป็นได้...”