สีสะเตนที่ใช้บนเคลือบ (Overglaze, Onglaze Stain)
มีอุณหภูมิการเผาต่ำจึงไม่ค่อยเกิดปฏิกิริยากับเคลือบที่ใช้มากนัก คือ มีช่วงอุณหภูมิในการเผาจำกัดจาก 700 - 900 °C สีที่มีความเปลี่ยนแปลงได้ง่ายในการเผาคือ สีแดงและสีม่วงแดง ถ้าเผาในอุณหภูมิต่ำหรือสูงเกินไป 10-20 °C สีจะไม่เหมือนเดิม หรือหายไปได้ ดังนั้นผู้ที่ใช้สีจึงต้องคอยสังเกตผลการทดสอบหลังการเผาทุกครั้ง
การเตรียมสีบนเคลือบ จะเตรียมจากสีสะเตนที่เผาสังเคราะห์ที่อุณหภูมิต่ำในปริมาณ 10 – 20 % หลอมรวมตัวกับฟริตที่เผาในอุณหภูมิ 600-750 °C ในปริมาณ 80-90 % จากนั้นนำไปบดให้เข้ากันดีแล้วนำไปเผาให้หลอมละลายจนกลายเป็นแก้วสีต่างๆ ที่มีความแวววาว จึงนำมาบดแล้วล้างสีใหม่อีกครั้ง จากนั้นบดต่อจนละเอียดให้มีขนาดเม็ดสี 90% ขนาดเล็กกว่า 8 ไมครอน ซึ่งสีที่เตรียมโดยวิธีนี้สามารถนำไปเคลือบโลหะและพิมพ์สีตกแต่งบนแก้วและขวดได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สีบนเคลือบไม่นิยมเตรียมขึ้นใช้เอง เพราะยุ่งยากในการเตรียมฟริตและต้องการความแม่นยำ
การตกแต่งสีบนเคลือบโดยทั่วไปนิยมพิมพ์รูปลอกน้ำติด หรือที่เรียกว่า ดีเคล (Decal) บนผลิตภัณฑ์ถ้วยชามที่มีเคลือบแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีหลายเนื้อดินและอุณหภูมิการเผา เช่นเนื้อดินโบนไชนา เนื้อดินพอร์ซเลน เนื้อดินวิทเทรียสไชนา ดินขาวเนื้อแกร่งและเนื้อดินเอิร์ทเทนแวร์ ดังนั้นน้ำยาเคลือบที่ใช้มีอุณหภูมิการเผาต่างกัน จะทำให้สีพ่นเคลือบแต่ละผลิตภัณฑ์มีอุณหภูมิในการเผาที่แตกต่างกันไปเล็กน้อยตามชนิดของเคลือบ
นอกจากจะใช้สีบนเคลือบตกแต่งบนผลิตภัณฑ์เนื้อขาวเคลือบใสแล้ว บางครั้งยังนิยมใช้ตกแต่งบนผลิตภัณฑ์เคลือบสีด้วย แต่ก็ควรระวังไม่นำสีบนเคลือบมาตกแต่งบนเคลือบที่ใช้คอปเปอร์ออกไซด์ เพราะสีจะดูดกลืนสีที่พิมพ์ให้กลายเป็นสีเทาหลังการเผา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีแดงและสีเหลือง และยังไม่นิยมพิมพ์สีบนเคลือบบนพื้นเคลือบสีเข้มๆ เพราะสีจะถูกกลืนหายไป ยกเว้นสีขาวซึ่งก็ต้องพิมพ์เป็นหลายครั้งทำให้มีความหนาเป็นพิเศษ
การตกแต่งลวดลายด้วยสีบนเคลือบ ถือว่าเป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการสร้างลวดลายและสีสันที่สดใสบนผลิตภัณฑ์ชุดอาหารเนื้อขาว จึงทำให้เกิดมีมาตรการคุ้มครองผู้ใช้สินค้าขึ้นมาและถือเป็นกฎหมายความรับผิดชอบต่อสินค้า ที่มีข้อบังคับโดยตรงต่อการตกแต่งด้วยสีบนเคลือบบนชุดอาหาร โดยมีการตรวจสอบการละลายออกมาของสารตะกั่วและสารแคดเมียม ด้วยวิธีละลายกรดแอซีติก 4% ในน้ำ และนำผลิตภัณฑ์แช่ลงในอ่างที่มีกรดละลายในอุณหภูมิห้องและที่มืด 24 ชั่วโมง แล้วนำกรดที่แช่ผลิตภัณฑ์ที่ตกแต่งด้วยสีบนเคลือบมาตรวจสอบวัดปริมาณของตะกั่วและแคดเมียม ซึ่งผลการวัดจะต้องมีค่าน้อยกว่าค่าที่กำหนดไว้จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์ความปลอดภัย
สีบนเคลือบที่จำหน่ายในปัจจุบันมีทั้งชนิดที่พิมพ์ออฟเซตที่พิมพ์เนื้อสีทับซ้อนกันได้และยังนำมาผสมกันได้ โดยที่สีไม่ทำปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงหลังการเผา ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สีตระกูลเซอร์คอน มีหลายชนิดให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นชนิดที่มีสารตะกั่วปริมาณต่ำและไม่มีสารตะกั่ว รวมถึงสีบนเคลือบเพื่อการเผาเร็ว
หมายเหตุ : ข้อมูลจากหนังสือสีเซรามิก ของ ไพจิตร อิ่งศิริวัฒน์