รู้จัก "Inglaze Stain" สีสะเตนที่จมลงในเนื้อเคลือบกันดีกว่า

 

การตกแต่งชิ้นงานด้วยการติดรูปลอกสีสะเตนในเคลือบแล้วนำไปเผาให้สีที่ตกแต่งบนผิวเคลือบจมลงในเนื้อเคลือบเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะสีสะเตนในเคลือบไม่มีความเป็นพิษจากสารละลายจึงปลอดภัยในการใช้ โดยคุณสมบัติเฉพาะตัวของสีในเคลือบนั้น นิยมใช้ตกแต่งบนผลิตภัณฑ์โบนไชน่าและพอร์ซเลน

สีที่พิมพ์เป็นลายตกแต่งบนผิวเคลือบนั้น เตรียมจากสีผสมกับฟริตที่มีอุณหภูมิการขาวสูงกว่าสีบนเคลือบโดยใช้อุณหภูมิการเผาที่ 900-1000 °C สำหรับผลิตภัณฑ์โบนไชนาที่เคลือบด้วยเคลือบฟริตที่มีสารละลายต่ำและเผาที่อุณหภูมิสูง 1250 °C  สำหรับสีที่พิมพ์เป็นลวดลายบนเนื้อดินพอร์ซเลน ผิวเคลือบจะหลอมละลายจมลงไปในชั้นของเคลือบขณะที่เผาในเตาเผาเซรามิกครั้งที่ 2 ทำให้ลวดลายที่ตกแต่งมีความคงทนไม่หลุดกะเทาะได้ง่ายและไม่สามารถที่จะละลายความเป็นพิษออกมาบนผิวของเคลือบ

การเตรียมสีในเคลือบจากสีสะเตนที่เผาสังเคราะห์ในอุณหภูมิสูง การเตรียมสีในเคลือบจะใช้ผงสีสะเตนประมาณ 10-40 % ผสมกับฟริตหรือเคลือบในอุณหภูมิการเผาที่ต้องการ 60-90 % ถ้าต้องการให้สีนูนเติมอะลูมินาไฮเดรต 0-20% เคลือบที่นำมาใช้กับสีอะไรเคลือบจะต้องเป็นสูตรที่ไม่ทำปฏิกิริยาหลังสีเผา ซึ่งจะเป็นเคลือบเอิร์ทเทนแวร์ สโตนแวร์หรือเคลือบพอร์ซเลนก็ได้ ซึ่งประเภทของสีสะเตนในเคลือบที่ผลิตจำหน่ายมีทั้งสีสะเตนในเคลือบแบบดั้งเดิม, สีสะเตนในเคลือบที่ไม่มีตะกั่ว, สีสะเตนในเคลือบชนิดเผาเร็วและสีสะเตนในเคลือบชนิดเผาเร็วที่ไม่มีสารตะกั่ว

ปัจจุบันการเผาสีตกแต่งในเคลือบนิยมการเผาเร็วในวงจร 60 - 120 นาทีเพื่อประหยัดเชื้อเพลิงและระยะเวลาการผลิตโรงงานที่ผลิตสีเพื่อจำหน่ายได้ค้นคิดค้นสีในเครือประเภทสีสดที่ทนอุณหภูมิสูงได้ดีและมีความคงตัวหลังการเผา ซึ่งโรงงานผลิตสีสะเตนได้มีการวิจัยเพื่อผลิตสีสดใสสำหรับเผาในอุณหภูมิสูงมากขึ้นและสามารถควบคุมปริมาณสารละลายของตะกั่วในสีสะเตนได้ 

ทั้งนี้สีในเคลือบสามารถใช้ตกแต่งบนผิวเคลือบของผลิตภัณฑ์ถ้วยชามทุกชนิด แต่ที่นิยมในผลิตภัณฑ์โบนไชนาและผลิตภัณฑ์พอร์ซเลน ซึ่งเคลือบแต่ละชนิดมีอุณหภูมิในการเผาสุกตัวพร้อมกับเนื้อดินของผลิตภัณฑ์นั้น สีในเคลือบที่ดีควรมีสมบัติคงตัวได้ดีในเคลือบและนำสีแต่ละสีมาผสมกันได้ทุกสี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อลวดลายพิมพ์ทับซ้อนกันและสีควรมีความสดใสหลังการเผา